วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ทะเบียน HONDA C65Y กับมหากาพย์ตำนานไตรภาค

     สวัสดีท่านผู้อ่านบล๊อคเรื่องราวของผมทั้งที่ตั้งใจเข้ามาหรือผ่านเข้ามาครับ วันนี้ก็ได้ช่วงเวลาที่พอจะว่างเล่า ว่างพิมพ์เลยมาเริ่มเล่าที่มาที่ไปและลำดับขั้นตอนของรถของผมที่ได้มาครอบครองคันล่าสุดครับ คือเจ้า HONDA C65Y  สีแดง ทะเบียนไทยแท้ จดทะเบียนเมื่อปี 2509 (สมัยกรมตำรวจ) ซึ่งเล่มนี้ไม่ได้มีการต่อภาษีมาตั้งแต่ปี 2534 มาถึงปัจจุบันก็ ร่วม ผ่านมา 27 ปีแล้วครับมาลองฟังข้อมูลเพื่อไว้เป็นแนวทาง



(นี้คือรูปเล่มทะเบียนของผมครับ ในช่วงกรมตำรวจ)
     
     สิ่งที่ต้องบอกก่อนคือ ปัญหาที่มีเลยคือ
1. มีเล่มทะเบียน ลงแค่เลขเครื่อง แต่เลขโครงรถไม่มีเขียนมา (ไม่ระบุ) 
ทะเบียนขาด 27 ปี
2. มีสำเนาชุดโอน บัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน ชุดจริง 1 ชุด

     เนื่องจาก รถคันนี้เป็นรถที่เป็นเลขแท้ติดรถมาไม่ตอก ไม่สวม ทั้งโครงและเครื่องจึงทำให้ผมมั่นใจมาก ก็เลยเริ่มดำเนินการ หาผู้รับจ้างไปต่อภาษีจัดการโอนให้ผมมายังจังหวัดนครปฐมที่ผมอยู่เลย ที่ผมว่าจ้างเพราะคิดว่าผมคงไม่ว่างที่จะมาค่อยลางาน หยุดงาน เพื่อไปยื่นเอกสารต่างๆแน่นอน เลยหาใกล้ๆเพราะไม่คิดว่าจะบานปลายอะไรแน่นอน เลยสรุป ได้เจอผู้รับจ้างเจ้าที่นครปฐมเอง เป็นคนนครปฐม ด้วยดีเลยใกล้ๆ เลยลองติดต่อคิดราคาคร่าวๆกับงานนี้ดู ก็สรุปกันเรียบร้อยก็ส่งเอกสาร จ่ายเงินสดครั้งแรกไปเพื่อเป็นค่าจ้างให้เริ่มดำเนินการ (หลักพัน) คอนเซ็ปของงานนี้คือ ไม่เอารถเข้าตรวจนะขี้เกียจยกไปมาและไม่ว่าง
     - จ่ายภาษีย้อนหลัง 27 ปี
     - ย้ายเข้า จังหวัดนครปฐม
     - แจ้งจดทะเบียนใหม่
     - โอนเปลี่ยนชื่อเป็นตัวผมเอง



     ณ ช่วง เมษายน 2561 (การยกรถตรวจครั้งที่ 1)
     แล้วผู้รับจ้างที่ผมจ้า่งก็เริ่มดำเนินการเดินเรื่องให้อย่างดี รวดเร็วเพื่อจบงานเลยทีเดียวจนไม่นานหลังจากนั้นผมก็ได้รับการติดต่อจากผู้รับจ้างให้ดำเนินการนำรถเข้าตรวจสภาพเพื่อจะย้ายเข้า เราก็โอเคใกล้ๆ (แต่ที่คุยกันคือไม่ต้องยกไปตรวจนะเนี่ย) ไอเราก็คิดว่าเอาวะ ยกไปก็นัดเจอ นัดกัน ตรวจที่นครปฐม ตามภาพเลย และผู้รับจ้างก็เรียกค่าเสียหายมาจัดการตรวจ ที่นครปฐมเพิ่มอีก ตามที่ผู้รับจ้างเรียกมา ยอดที่ 2 (หลักพัน)





     ซึ่งก็ผ่านไปหลังจากนั้น ก็สรุปกันว่าอีกไม่กี่วันคงเสร็จเพราะแจ้งย้ายแล้ว ตรวจแล้วก็จบเสร็จงาน  แต่...!!!!!!!!!!!! มันไม่ใช่แบบนั้น  ทางต้นทาง ราชบุรี บอกว่าไม่มีต้นขั้วในระบบ ดังนั้นการแจ้งย้ายมานครปฐมจึงทำไม่ได้ ต้องไปดำเนินการที่ต้นทาง ราชบุรีก่อนเพราะทะเบียนเป็นของที่นั้น.... ผมจึงต้องเอารถไปฝากที่ผู้รับจ้างเพื่อยกรถผมไปติดต่อที่ขนส่งราชบุรีเรื่องต้นขั้ว


     ณ ช่วง พฤษภาคม 2561 (การยกรถตรวจครั้งที่ 2)
     เมื่อถึงเวลาวันที่นัดไปราชบุรี ผมก็รีบปลีกตัวไปตามดูขั้นตอนเพื่อจะทราบรายละเอียดบ้างซึ่งก็ได้เห็นรถตัวเราเองอยู่บนรถได้รับการตรวจสภาพอีกครั้ง ลอกเลขโครง เลขเครื่องอีกครั้งเพื่อไปเทียบกับต้นขั้ว ซึ่งถ้าหาในวันเจอก็เสร็จจบไปแล้วในวันนั้น  แต่รอแล้วรออีกประมาณ 2 ชั่วโมง ก็สรุปว่า หาต้นขั้วไม่เจอ มันอาจจะอยุ่ในโกดังที่เก็บไว้ ต้องใช้เวลาหาโดยประมาณ 1-3 เดือน (ผู้รับจ้างผมบอก)ซึ่งในช่วงนี้ ทางผู้รับจ้างก็ได้บอกว่าผมต้องรออย่างเดียวให้หาต้นขั้วเจอ จะได้ดำเนินการต่อ


(นี้คือเอกสารการหาต้นขั้วแล้วไม่เจอครับ)





     ซึ่งหลังจากการติดต่อในขั้นตอนนี้ ผู้รับจ้างผมก็เริ่มมีการเรียกค่าเสียหายเพิ่มละ โดยแจ้งว่า รถไม่มีเลขโครงใรเล่ม อาจจะต้องโดนตอกเลขใหม่ที่ออกจากขนส่งนะ ซึ่งเราฟังแบบนี้ก็ไม่ยอมแน่นอน เพราะเลขมันควรจะเป็นเลขรุ่นรถของมัน และเลขก็ยังมองเห็นชัดเจนด้วยขูดก็ชัดดี แต่ในตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไ่ม่เลยบอกไปว่า ช่วยคุยให้หน่อยครับผมไม่อยากได้เลขใหม่ ผมอยากได้เลขเดิมเลย โอนค่าเสียหายไปตามที่ผู้รับจ้างเรียกมา ยอดที่ 3 (หลักพัน) กับคอนเซ็ป เลขโครงต้องเป็นเลขเดิมของรถไม่เอาเลขโครงใหม่ที่ต้องตอกจากขนส่ง 




     ณ ช่วง พฤษภาคม  - สิงหาคม 2561 (การติดตามและสอบถามความคืบหน้า)
     และในช่วงเวลานี้ผมก็โทรถามโทรตามเรื่อยๆว่าเป็นอย่างไรบ้างตลอดซึ่งแกก็ให้ผมรอทางขนส่งแจ้งมา ประมาณ 3 เดือนรู้ผลแน่นอน (ผู้รับจ้างบอก) ผมเลยรอปรากฎว่า ในระหว่างนี้ ทางผู้รับจ้างก็ได้ดำเนินการเอกสารไปด้วย นั้นคือ ต้องมีบันทึกถ้อยคำของเจ้าของรถคนเก่า มาประกอบด้วยว่า ได้ซื้อขายจริงให้ผมจริง พร้อมทั้งต้องหาพยาน 2 คน นั้นคือ ลูกหลานของเจ้าของด้วย ผู้รับจ้างเลยแจ้งค่าไปติดตามหาเจ้าของและดำเนินการเร่งค้นต้นขั้ว ผมก็โอนค่าเสียหายไปตามที่ผู้รับจ้างเรียกมา ยอดที่ 4 (หลักพัน)



(เอกสารประกอบการจดทะเบียนใหม่ของนายช่างคนเก่า ตั้งแต่เดือน 5)


     ผู้รับจ้างผมต้องไปตามหาเจ้าของเก่าตามในเล่มนี้จริงๆ ซึ่งท่านก็แก่มากแล้วเป็นผู้ป่วยติดเตียง ผมก็เห็นว่ามีรูปการปั้มลายนิ้วมือด้วย โห้แน่นอนจริงๆ เจ้าของเก่าได้เล่าให้ฟังเรื่องประวัติรถคันนี้ ก็ถึงกับมีความสุขเลยที่ได้ฟังเรื่องเก่าๆ แกก็เล่าว่ารถเคยชนมาครั้งนึง ซึ่ง

จากการไปครั้งนี้ ก็ได้การปั้มลายนิ้วมือมาเพราะแกเซ็นต์ลายเซ็นไม่ไหวแล้ว พร้อมเอกสารพยาน 2 คน คือลูกของท่านนั้นเองมาด้วย และนี้คือรูปที่ผู้รับจ้างผมถ่ายไว้



(ภาพเจ้าของเก่าที่ไปตามหามาจนได้ครับ)



(นี้คือเอกสารการรับรองฉบับแรกที่ไปปั้มมารอบแรก)
(ครับคิดว่าคงรายละเอียดไม่ครบทางฝ่ายตรวจสภาพรถเลยต้องทำใหม่ให้เซ็นกันอีกรอบ)


     ณ ช่วง สิงหาคม 2561 (การตามงานด้วยตัวเอง ครั้งที่ 1)
     และเมื่อรอมาตลอด ครบ 3 เดือนผมก็สอบถามตลอดกับผู้รับจ้าง ซึ่งก็ตอบผมได้แค่ว่า  "ต้องรออีกนิดครับ เด๊วเสร็จแล้วแจ้งกลับ " ซึ่งผมก็เริ่มงงว่า ทำไมนานจัง ผมเลยเริ่มอยากไปสอบถามเองที่ราชบุรีเพื่อสอบถามความจริงและขั้นตอนที่ติดอยู่ว่าทำไมถึงไม่ทำอะไรคืบหน้าต่อเลย ทั้งๆที่ผู้รับจ้างผมก็ทำเอกสารแน่นแล้ว ผมเลยไปติดต่อเลย เจอทางฝ่ายทะเบียนก่อนเลยก็ได้เข้าไปสอบถามว่าเคสของเราสรุปยังไงซึ่งเรื่องก็อยู่ที่ฝ่ายทะเบียนนี้จริงๆ เลยได้สอบถามทางหัวหน้าไปก็ ซึ่งแกแจ้งว่าหาจ้นขั้วในระบบไม่มี  และยังมีการสอบถามข้อมูลรถของรุ่นนี้ ที่มาที่ไปของคันนี้ โดยท่านหัวหน้าก็รับฟังเข้าใจและรับทราบข้อมูลท่านก็เลยแจ้งว่า โอเค เด๊วจะสร้างต้นขั้วให้เลยครับ เด๊วสร้างเสร็จจะโทรแจ้งให้มาดำเนินการต่อ ผมก็เลยจะขอกลับเลยละกัน (คิดในใจคงอีกเป็นอาทิตย์แน่ๆ) พร้อมทั้งบอกว่า ทีหลังมาติดต่อเคสแบบนี้ มาติดต่อเองนะดีที่สุดเพราะเคสมันยากอยู่ ผมก็ โอเคครับ เด๊วผมจะมาด้วยตัวเอง 



     และหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงท่านหัวหน้าก็โทรมาแจ้งว่า สร้างต้นขั้วให้เสร็จแล้วนะ โห้แม่เจ้า แค่ไม่กี่ชั่วโมง ขนส่งสร้างต้นขั้วให้เสร็จแล้วหลังจากที่เราไปติดต่อวันนี้เอง สรุปคือ คิดในใจว่า เรารอมาเป็นเดือนๆ รออะไรเนี่ยอีผู้รับจ้างเราบอกให้เรารอ 3 เดือนแนะ แต่พอเรามาคุย วันเดียวสร้างได้เลย เห้อๆ ผมเลยแจ้งว่า เด๊วผมเข้าไปรับอีกวันละกันครับ ซึ่งแกแจ้งว่าให้เอารถมาตรวจด้วยเลยนะในวันที่มาเอาเอกสารและต้นขั้ว ผมก็คิดในใจอีกว่า ผมต้องยกรถมาตรวจอีกแล้วหร่อเนี่ย ซึ่งแกก็แจ้งว่ามาเตอะจะได้ชัดเจน ......โอเค เด๊วต้องมาเอาเอกสารพร้อมกับตรวจรถอีกครั้ง


(นี้คือเอกสารการต้นขั้วที่สร้างใหม่)


     ณ ช่วง กันยายน 2561 (การตามงานด้วยตัวเอง ครั้งที่ 2)
     แล้วผมก็มาพร้อมรถเพื่อมารับเอกสารและตรวจอีกครั้ง สรุปว่า ต้องยกเลิกแจ้งย้ายปลายทางก่อนแล้วขอจดที่นี้ตรวจที่นี้ แต่พอรับเอกสารต้นขั้วเท่านั้น มีปัญหาเลยยยยยย

คือ ต้นขั้วที่สร้างมาจากข้อมูลในเล่มไม่มีเลขโครงนั้น พอสร้างต้นขั้วมา ปรากฏว่า 

เลขโครง   = C65E-XXXXXX
เลขเครื่อง = C65E-XXXXXX

     เวงกำเลยย   เลขดันเหมือนกันซะงั้น เลยสอบถามไปที่หัวหน้าฝ่ายทะเบียน(ที่สร้างต้นขั้วให้) แกแจ้งว่า มันเป็นที่ระบบ เมื่อไม่มีเลขระบบจะเอาเลขเครื่องมาใส่ให้อัตโนมัติ เลยเป็นแบบนี้มันแก้อะไรไม่ได้ เด๊วให้ทางฝ่ายตรวจสภาพรถทำเอกสารชี้แจงหรือบันทึกไปเขามีขั้นตอนอยู่  เมื่อผมได้ยินแบบนี้ ผมก็ค่อยสบายใจหน่อยแต่ก็คิดว่า ไม่จบง่ายๆแน่



     แล้วผมก็นำเอกสารที่ได้และข้อมูลจากฝ่ายทะเบียนไปติดต่อที่ฝ่ายตรวจสภาพรถโดยได้มีการตรวจเลข ขูดเลข ถ่ายรูป และปัญหาก็เริ่มเลย 







     นายช่างตรวจก็แจ้งว่าต้องขอรวบรวมข้อมูลรถรุ่นนี้มาให้หน่อยเพราะผมก็ไม่ทราบข้อมูลเชิงลึก นั้นคือโชคดีของผม เพราะผมมั่นใจว่าผมัมีข้อมูลรุ่นนี้เยอะมาก จึงรวบรวมรายละเอียดตัวรถรุ่นนี้และคันนี้ ทั้งที่มาที่ไปของรถคันนี้ส่งให้นายช่างตรวจเพื่อเสนอให้หัวหน้าอนุมัติ แจ้งจดทะเบียนได้ผมเลยส่งข้อมูลในบล๊อคนี้ไปให้เลยจบๆไป หลังจากส่งเสร็จ นายช่างก็ให้รอผลประมาณ 1 อาทิตย์ได้



(นี้คือข้มูลที่ส่งเมล์ให้นายช่างตรวจครับ)

     ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า ช่างที่ตรวจคนแรกตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ได้ย้ายไปแล้วด้วย ทำให้ผมต้องเริ่มใหม่ช่างตรวจคนใหม่ด้วย เป็นเพราะ ผู้รับจ้างของผมปล่อยให้ผมรอตั้ง 3 เดือน โดยที่ช่างตรวจได้บอกให้มาตรวจตั้งนานแล้ว ไม่เห็นมา  น่านนนนน......ความจริงปรากฎแล้วว่าผู้รับจ้างของผมไม่ยอมบอกให้ผมเอารถมาตรวจ เลยต้องเริ่มใหม่เลย (จริงๆผู้รับจ้างรับปากว่าคุยได้ และนัดไว้แล้ว) โถ่ๆๆๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่รับปากเลย สรุปต้องเริ่มใหม่ เอาจัดไป เต็มที่

     
     ณ ช่วง ตุลาคม 2561 (การตามงานด้วยตัวเอง ครั้งที่ 3)
     และหลังจากนั้นก็มีโทรศัพท์จากหัวหน้าฝ่ายตรวจสภาพรถได้โทรมาแจ้งข่าวว่า ต้องมาเอาเอกสารบันทึกถ้อยคำที่ทางขนส่งได้ทำให้ไปให้เจ้าของเก่าเซ็นหรือประทับลายนิ้วมือยืนยัน พร้อมพยานลูกทั้ง 2 คนเหมือนเดิม  โดยเมื่อเซ็นมาแล้วก็ต้องเสนอให้ทางท่าน ผอ.ขนส่งเซ็นอนุมัติอีกทีคือจบกระบนการ

ผมละคิดในใจเลย แม่เจ้าาาา.......... อะไรนะต้องเอาไปให้อีกแล้วหร่อเนี่ย ทั้งๆที่มีใบรับรองมาแล้ว 1 ใบ แต่ก็อย่างว่าเพื่อให้มันจบ ต้องไปรับเอกสารเพื่อให้ผู้รับจ้างไปบ้านเจ้าของเก่าอีกครั้ง 



     หลังจากนั้น ผู้รับจ้างผมก็เข้าไปพบเจ้าของเก่าเสร็จก็นำมาคืนขนส่งเพื่อดำเนินการต่อไปโดยผมขอแนะนำให้ทุกท่านทราบเลยว่า เวลาจะทำบันทึกถ้อยคำรับรอง ในนามของเจ้าของคนเก่าที่ขายให้เรามาควรมีข้อความแบนี้ คือ

"ข้าพเจ้านาย............................เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันหมายเลขทะเบียน.........................
ชนิดรถ............(ยี่ห้อ)................หมายเลขเครื่องยนต์.....................................สี................................
ซึ่งจักรยานยนต์ดังกล่าวสมัยจดทะเบียนกับกรมตำรวจไม่ได้ระบุหมายเลขตัวรถเก่ามาแต่เดิมซึ่งต่อมาข้าพเจ้าได้ขายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าให้กับ. ............................................เมื่อเข้ารับการตรวจสภาพรถแล้วปรากฎพบเลขตัวรถ............................................ซึ่งหมายเลขตัวรถที่พบดังกล่าวเป็นหมายเลขตัวรถเดิมสมัยที่จดทะเบียนเมื่อ................................................. โดยที่ข้าพเจ้าไม่เคยได้ทำการเปลี่ยนแปลงโครงรถและเครื่องยนต์แต่ประการใดเป็นของเดิมทั้งสิ้น
ทั้งนี้หากมีปัญหาหรือข้อโต้แย้งเกี่ยวกับรถคันนี้ข้าพเจ้าในฐานะเจ้าของเดิมจะขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวโดยมิได้ซัดทอดถึงบุคคลอื่นทั้งสิ้น"



(นี้คือเอกสารบันทึกถ้อยคำสำหรับ "ผู้ขาย")



(นี้คือเอกสารบันทึกถ้อยคำสำหรับ "ผู้ซื้อ")


     และต้องมีบันทึกถ้อยคำรับรองของผู้ซื้อหรือเจ้าของใหม่ด้วยซึ่งข้อความจะคล้ายๆกัน และผมก็ต้องรอการแจ้งจากหัวหน้าฝ่ายตรวจสภาพรถเพื่อให้มาดำเนินการจดทะเบียนได้อีกครั้งหลังผอ.ขนส่ง เซ็นอนุมัติ ประมาณ 1 อาทิตย์

     ณ ช่วง พฤศจิกายน 2561 (การตามงานด้วยตัวเอง ครั้งที่ 4)
     และวันที่ผมรอคอยก็มาถึง โทรศัพท์แจ้งว่าเรียบร้อยมาแล้วววววววววว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!ผมไปจ่ายเงินค่าจดทะเบียนใหม่และรับเอกสารกลับในวันที่สิ้นเดือน พฤศจิกายนสดๆร้อนๆเลยจบซักที...



     สรุป สาระสำคัญ

- การจ้างงานให้ผู้รับจ้างของผม นั้น ผู้รับจ้างผม นาย ก.รับงานไป แล้วไปส่งงานต่อให้ นาย ข. ซึ่งนาย ข. ก็ส่งงานต่อไปให้ นาย ค. สรุป นาย ก. คือนายหน้าเฉยๆ แดกเงินล้วนๆ

- การทำเคสเกี่ยวกับรถไม่ลงเลขโครง หรือเลขเครื่อง ถ้าเราติดต่อขนส่งเองได้และมีประวัติมีข้อมูล ในความคิดผมคือน่าจะดีสุด เพราะสามารถสอบถามและโต้ตอบกับผู้มีข้อมูลได้ทันที

- รถเก่าๆมีทะเบียนเก่าๆแต่ไม่มีเลขโครงหรือเลขเครื่องลงไว้ก็สามารถที่จะทำเลขที่ติดรถนั้นลงเล่มได้ถ้ามีข้อมูลความจริงและความน่าเชื่อถือเจ้าของเก่าเซ็นรับรอง

- ไม่ทราบว่าการหาต้นขั้วต้องหา 1-3 เดือนหรือเปล่าไม่รู้ ผมไม่มั่นใจ แต่การสร้างต้นขั้วของขนส่งใช้เวลาไม่นาน เลยหลังจากมีข้อมูลใช้เวลาวันเดียวเอง

- ระยะเวลาที่ผู้รับจ้างให้ผมรอ 4 เดือน แต่ผมทำเอง 1 เดือน ทำให้ผมรู้เลยว่า ถ้าผู้รับจ้างทำจริงๆ ใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือนน่าจะรู้ผล อย่างน้อยเคสยากๆไม่เสร็จก็น่าจะพอรู้คำตอบว่าได้หรือไม่ได้

- ระวังผู้รับจ้างประเภทที่ เรียกเงินยิบย่อย ทั้งที่เรื่องไม่ต้องใช้เงินก็เรียก เช่นที่ผมเจอคือ ในกรณีเลขที่จะต้องตอกใหม่นั้นคือ เลขที่โครงต้องไม่ชัด เสียหาย สึกเก่ามาก มองไม่เห็น แต่ผู้รับจ้างก็นำข้อนี้ มาเรียกเก็บเงินผมว่าจะ ช่วยคุยให้ ซึ่งของผมมันไม่ต้องตอกอยู่แล้ว ฉนั้นเราต้องทราบคร่าวๆบ้างครับสำหรับขั้นตอน (ข้อมูลจากการสอบถามพี่ตูน เมาล์กริบ)

- ใครที่มีเล่มทะเบียนแต่ยังไม่รีบทำโอนต่อทะเบียน ระวังอายุเจ้าของเก่าจะเยอะเช่น เคสบางเคส อายุเจ้าของมาถึงปัจจุบันรวมอายุ 100 กว่าปีแล้วซึ่งมันจะเวอร์เกินไปนะต้องคอยดูความเป็นไปได้ด้วยครับ

- เคสของผมถ้าไม่รีบโอน เจ้าของเก่าผมอาจจะ มีโอกาสเสียชีวิตก็ได้(อันนี้ไม่ได้แช่งครับ แค่พูดถึงสัจธรรม)ที่มันหนีกันไม่พ้น ครับ ใครจะทำรีบทำครับก่อนจะยากกว่านี้



     ปล. หวังว่ารายละเอียดนี้ จะพอทำให้หลายๆท่านที่อ่าน มีประโยชน์ไม่มากก็น้อยในการทำทะเบียนนะครับ รถเก่าที่ผมทำได้คือ

1. ปีจดทะเบียนตรงปี พ.ศ.2509 หรือประมาณ ค.ศ. 1966 (ช่วงปี ผลิต C65 ตามในข้อมูล)

2. สีรถในเล่ม สีแดงเดิม ตรงกับรถตั้งแต่สมัยเพิ่งจดทะเบียน
3. เลขตัวรถ จากไม่มีลงเล่ม ก็มีลงในเล่มตรงกับโครงรถจริง
4. ตำแหน่งเลขตัวรถ ระบุไว้ "กลางซ้าย" ตรงตามตำแหน่งจริง
5. เลขเครื่อยนต์ตรงตามจริงรหัสตามจริง
6. จำนวน cc. (ซีซี) ระบุ 65 ซีซี ตรงรุ่น
7. ชื่อเป็นผมเอง เป็นผู้ครอบครองเรียบร้อย


รถสีเดิม เลขไม่ตอก เล่มไม่สวม
ปีจดตรงปี ซีซีตรงรุ่น ตำแหน่งเลขตรงจุด
ทะเบียนแท้ ภาษีเต็ม พร้อมโอน